สำหรับผู้ใช้ iPhone แอป iMessage คงเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่เมื่อ Apple เปิดตัว iOS 17 เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาก็ทำการปรับปรุงอินเทอร์เฟซของแอป iMessage ใหม่และใส่ฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงตัวเลือกสำหรับปรับแต่งมากมายที่อาจจะเป็นที่ซ่อนอยู่ เราได้รวบรวมเอา 10 เคล็ดลับการใช้งานที่หวังว่าจะช่วยให้ประสบการณ์ใช้ iMessage สนุกสนานและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
1. เข้าถึงคลังรูปได้ไวขึ้น
ใน iOS 16 ถ้าอยากแชร์รูปคุณต้องแตะไอคอนรูปในแถบแอปด้านล่างช่องพิมพ์ข้อความเพื่อเข้าถึง Camera Roll ของคุณ ใน iOS 17 ปุ่มรูปได้หายไป ซึ่งอาจทำให้ดูเหมือนว่าต้องแตะ “+” ด้านซ้ายของช่องพิมพ์ก่อนเพื่อเปิดตัวเลือกนี้ขึ้นมา
โชคดีที่เราไม่ต้องเสียเวลาถึงสองขั้นตอนในการเข้าถึงคลังรูปของคุณ เพียงแค่กดค้างที่ปุ่ม “+” ไว้ คุณก็จะถูกพาเข้าสู่คลังรูปทันที พร้อมกดรูปที่ต้องการส่งได้เลย
2. ปรับแต่งแถบเมนูใน iMessage
เมื่อแตะ “+” จะมีตัวเลือกต่างๆ เรียงอยู่ในลำดับตั้งต้น นั่นคือ Camera, Photos, Stickers, Cash (ในประเทศที่รองรับ), Audio และ Location สุดท้ายคือปุ่ม More ซึ่งกดแล้วจะขยายรายชื่อแอปที่มีอยู่ใน iMessage นอกจากนี้ยังสามารถเลื่อนขึ้นบนเพื่อดูรายชื่อนี้ด้วยเช่นกัน
คุณสามารถจัดเรียงรายชื่อแอปให้เหมาะกับการใช้งาน โดยที่แอปไหนใช้บ่อยก็ลากขึ้นมาด้านบน และดึงแอปในหัวข้อ “More” มาอยู่ในหน้าแรกได้ตามขั้นตอนดังนี้:
- การย้ายแอปภายในหน้าจอเดียวกัน ให้กดค้างที่ไอคอนแอปแล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการแล้วปล่อย
- การย้ายแอปขึ้นสู่หน้าแรกก็ใช้กระบวนการเดียวกัน แค่ลากขึ้นไปวางเหนือหน้าจอให้เรียบร้อย
3. ตอบกลับได้ไวขึ้น
ก่อนหน้านี้เราจะต้องกดค้างข้อความ แล้วกดคำว่าตอบกลับ แต่นับจากนี้ Apple ได้เพิ่มฟีเจอร์การตอบกลับโดยการปัดเพื่อให้กระบวนการไวขึ้นและช่วยให้เรารู้ว่าตอนนี้กำลังตอบกลับข้อความไหนอยู่
- เข้าสู่บทสนทนาใน iMessage หาข้อความที่ต้องการจะตอบกลับ แล้วปัดขวาไปที่ข้อความนั้นๆ
- ข้อความนั้นจะถูกไฮไลท์ขึ้นมาและช่องกรอกข้อความจะเด้งขึ้นเพื่อให้คุณตอบกลับได้ทันที
- หากต้องการกลับไปบทสนทนาหลัก ให้แตะพื้นที่เบลอที่เหลือ
สังเกตได้ว่าจะมีเส้นเชื่อมจากการตอบกลับของคุณไปยังข้อความต้นทาง ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะการสนทนาในกลุ่ม เพื่อติดตามได้ว่าใครตอบกลับใครอยู่ นอกจากนี้ ทุกคนในกลุ่มจะสามารถอ่านการตอบกลับแบบนี้ได้ หากไม่ต้องการแบบนั้น ให้เริ่มสร้างบทสนทนาใหม่สำหรับใครที่คุณต้องการพูดถึง นอกจากนี้ฟีเจอร์นี้ใช้ได้บน iMessage เท่านั้น และใช้ไม่ได้กับ SMS ทั่วไป
4. เปลี่ยน Live Photo ให้เป็น Live Sticker
iOS 17 ให้คุณเลือกตัวแบบต่างๆ จากในรูป Live Photo มาทำเป็น Live Sticker เพื่อใช้ใน iMessage หรือที่อื่นๆได้ Live Sticker นั้นก็เหมือนสติ๊กเกอร์เคลื่อนไหววนลูป สามารถส่งให้เพื่อนๆ และครอบครัวเล่นกันได้สนุกมาก
- แตะ “+” ด้านซ้ายของช่องพิมพ์ข้อความ แล้วเลือกตัวเลือก Stickers
- เลือกไอคอน Stickers บนแถบแอปสติ๊กเกอร์ จากนั้นแตะปุ่ม “+” ใหญ่ๆที่อยู่ในเมนูสติ๊กเกอร์
- แตะคำว่า Live ใต้แถบค้นหารูป แล้วเลือก Live Photo ที่ต้องการ
- แตะคำว่า Add Sticker ที่ด้านล่างหน้าจอ แล้วแตะสติ๊กเกอร์ที่เพิ่งสร้างเพื่อส่ง หรือจะกดค้างแล้วลากขึ้นมาแปะบนข้อความก่อนหน้าในห้องแชทก็ได้
- นอกจากนี้ สามารถกดค้างที่สติ๊กเกอร์เพื่อจัดเก็บใหม่ ใส่เอฟเฟกต์ หรือจะลบก็ได้เช่นกัน อย่าลืมนะว่าถ้าใส่เอฟเฟกต์เข้าไปแล้ว มันจะกลายเป็นสติ๊กเกอร์ธรรมดา ไม่ใช่ Live Sticker อีกต่อไป
5. ใช้ Emoji เป็นสติ๊กเกอร์
ใน iOS 17 อิโมจิธรรมดาๆ ทุกตัวจะกลายเป็นสติ๊กเกอร์ไปซะแล้ว ใช้ในลักษณะเดียวกับสติ๊กเกอร์จริงๆ นั่นหมายความว่าไม่จำเป็นต้องส่งเป็นแค่ข้อความ คุณยังลากมันไปวางตรงไหนของข้อความก็ได้ หรือซ้อนๆ กันจนกลายเป็นภาพอิโมจิน่ารักๆ ขึ้นมาก็ได้นะ
- ในบทสนทนา iMessage แตะปุ่ม Emoji มุมซ้ายล่างของหน้าจอ
- กดค้างที่อิโมจิตัวที่ต้องการใช้ แล้วลากขึ้นไปวางบนข้อความที่จะตอบกลับแล้วปล่อยนิ้ว (คุณสามารถลากอิโมจิหลายๆ ตัววางในที่เดียวกันก็ได้)
- หากต้องการแก้ไข ให้กดค้างที่อิโมจิสติ๊กเกอร์นั้นๆ แล้วเลือก Sticker Details ในเมนูที่เด้งขึ้นมา
- หากต้องการลบอิโมจิสติ๊กเกอร์ ให้ปัดซ้ายบนตัวสติ๊กเกอร์นั้น แล้วแตะปุ่มถังขยะสีแดงที่ขึ้นมา
- แตะ Done เพื่อกลับสู่บทสนทนา
6. จัดการแอปสติ๊กเกอร์
สติ๊กเกอร์แพ็กปกติยังมีอยู่ใน iOS 17 นะ เพียงแต่การเข้าถึงและจัดการไม่เหมือนกับใน iOS 16 แล้ว ตามคำแนะนำนี้ได้เลย ในการเข้าถึง จัดเรียง หรือลบแอปสติ๊กเกอร์ที่ติดตั้งบน iPhone ของคุณ
- เข้าสู่บทสนทนา แล้วแตะ “+” ด้านซ้ายของช่องพิมพ์ข้อความ
- แตะคำว่า Stickers ในแถบเมนูด้านบน
- ด้านล่างช่องพิมพ์ข้อความ ปัดแถบแอปสติ๊กเกอร์ที่ติดตั้งไว้ไปทางซ้ายจนสุด แล้วแตะ Edit
- ในการจัดเรียงแอป ให้แตะไอคอนเส้นสามขีดข้างๆแอป แล้วลากขึ้นลงไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
- ในการลบแอปสติ๊กเกอร์ ให้แตะ Edit ที่มุมซ้ายบน แล้วแตะปุ่ม ลบ ข้างๆแอปนั้นๆ
- เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้แตะ Done มุมขวาบน
7. ใช้ตัวกรองในการค้นหา
ใน iOS 16 เวลาต้องการหาข้อความในแอป iMessage เราแค่พิมพ์คำที่ต้องการ และระบบก็จะหาผลลัพธ์ที่เข้ากันมาให้ แต่ไม่มีทางกรองข้อความลงไปอีกให้เจออะไรที่ต้องการง่ายๆขึ้น เช่น หากต้องการหาข้อความจากเพื่อนชื่อ “จอห์น”ที่มีคำว่า “มื้อเย็น” อยู่ด้วย เราจำเป็นต้องค้นหาคำว่า “มื้อเย็น” ก่อน จากนั้นก็เลื่อนข้อความหาเอาจนกว่าจะเจอของจอห์น
โชคดีที่ใน iOS 17 Apple ได้ทำให้ฟีเจอร์การค้นหาดีขึ้นเยอะ โดยสามารถพิมพ์คีย์เวิร์ดซ้อนกัน และกรองการค้นหาให้ผลลัพธ์มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น หากคุณหาภาพหรือลิงก์จากคนใดคนหนึ่ง ให้พิมพ์ชื่อบุคคลนั้นก่อน จากนั้นแตะที่ “Messages with: [ชื่อบุคคล]”
ถัดมา เลือกที่ “Photo” หรือ “Link” ที่ขึ้นมา แล้ว Messages จะทำการค้นหาให้แคบลงอีกขั้น จากนั้นให้ใส่คีย์เวิร์ดเพิ่มเข้าไปได้แล้ว Messages ก็จะแสดงผลลัพธ์ทั้งลิงก์และรูปภาพที่มีคำนั้นให้ หรือจะเริ่มจากคีย์เวิร์ดแล้วค่อยมาไล่กรองตามบุคคล รูปภาพ ลิงก์ หรือสถานที่ก็สะดวกเช่นกัน
8. เก็บข้อความเสียงได้แล้วนะ
อีกหนึ่งการปรับปรุงใน iMessage ของ iOS 17 คือตอนนี้เห็นชัดเจนขึ้นแล้วว่าจะไปหาไฟล์เสียงที่เลือกเก็บไว้ได้ที่ไหน ใน iOS 16 พอกดค้างที่ข้อความเสียงจะมีตัวเลือก Save ขึ้นมา แต่มันไม่ชัดเจนว่าต้องไปหารูปที่ไหน
Apple แก้ปัญหานี้ใน iOS 17 ด้วยการเปลี่ยนคำว่า “Save” เป็น “Save to Voice Memos” และพอแตะข้อความแล้วก็แค่เปิดแอป Voice Memos ข้อความเสียงที่คุณบันทึกจะอยู่ด้านบนสุดของรายการในนั้นเลย จากนั้นจะปรับเสียง ลดช่วงเงียบ ตั้งชื่อให้เข้าใจง่าย และลบเมื่อไม่ต้องการเก็บไว้อีกต่อไปก็ทำได้ทันที
9. ปรับความเร็วข้อความเสียง
ข้อความเสียงที่เราได้รับ ไม่จำเป็นต้องฟังด้วยความเร็วที่คนส่งมาบันทึกเสียงไว้นะ หากเขาอัดเสียงแล้วเว้นช่วงเป็นพักๆ หรือพูดช้าเกินไป คุณสามารถเลือกฟังในความเร็วสูงขึ้นได้
แค่กดค้างที่ปุ่ม play จะมีตัวเลือกความเร็วการเล่นเด้งขึ้นมา มีทั้งแบบ 1x, 1.25x, 1.5x, และ 2x เลยทีเดียว
10. ส่งข้อความเสียงไวขึ้น
ถ้าจะส่งข้อความเสียงยาวๆ หลายอันติดกัน ไม่จำเป็นต้องคอยมากด “+” เพื่อเปิดตัวเลือก Audio ทุกครั้งที่อัดข้อความใหม่เสร็จ
iMessage จะจดจำว่าอะไรคือรูปแบบข้อความล่าสุดที่เพิ่งส่ง จากนั้นจะแสดงไอคอนรูปคลื่นเสียงทางด้านขวาของช่องพิมพ์ไว้ให้กดค้างเพื่ออัดข้อความเสียงต่อไปได้อย่างสะดวกเลยล่ะ
สรุป
iOS 17 ได้ยกระดับประสบการณ์ใช้งานแอป iMessage ของเราให้มีความสนุกและสะดวกมากยิ่งขึ้น อย่าลืมไปทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ดูนะคะ การส่งข้อความจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
