ไอโฟน ถือเป็นสินค้าขายดีที่สุดของ Apple และได้รับการอัปเดตอยู่ทุกปี ในปี 2024 เราคาดการณ์ว่าจะได้เห็น iPhone 16 และรุ่น iPhone 16 Pro ซึ่งน่าจะพกฟีเจอร์เด็ดๆ มาเพียบ น่าสนใจมากกว่า iPhone 15 และ iPhone 15 Pro เสียอีก
ปุ่มถ่ายภาพสุดล้ำ
มีข่าวว่า iPhone 16 ทั้ง 4 รุ่นจะได้รับการติดตั้งปุ่มรูปแบบใหม่เอี่ยม! โดยจะอยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง ใต้ปุ่มเปิดปิด ในสหรัฐฯ ตรงจุดนี้คือส่วนที่เป็นเสาอากาศ mmWave 5G ซึ่งดูเหมือน Apple จะขยับให้ไปอยู่อีกด้านหนึ่งแทน
ฟีเจอร์ใหม่นี้ที่มีชื่อว่า “ปุ่มถ่ายภาพ (Capture Button)” ออกแบบมาเพื่อการถ่ายรูปและวิดีโอในโหมดแนวนอนโดยเฉพาะ ฟังดูเหมือนมันจะเน้นไปที่การถ่ายวิดีโอ 3 มิติแบบแนวนอน เพื่อชมกันแบบเต็มอารมณ์บน Apple Vision Pro แต่ก็น่าจะสะดวกสำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอทั่วไปด้วยเช่นกัน
จากข่าวลือ ตัวปุ่มจะเป็นแบบกลไกธรรมดา เหมือนปุ่มเปิดปิดและปุ่มปรับเสียง เพียงแต่จะรองรับแรงกดหลายระดับ กดเบาๆ เพื่อโฟกัส จากนั้นกดแรงขึ้นเพื่อถ่ายรูปหรือเริ่มถ่ายวิดีโอ ให้ความรู้สึกคล้ายชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูปเลย
เสริมอีกนิดว่า iPhone 16 รุ่นธรรมดาจะได้ใช้ปุ่ม Action Button ที่เปิดตัวใน iPhone 15 Pro และ Pro Max ด้วย หมายความว่าทั้ง Action Button และ Capture Button จะมีให้ใช้กันทั้งซีรีส์เลย
ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น
Apple ใช้ขนาดหน้าจอ 6.1 และ 6.7 นิ้วมาตั้งแต่ iPhone 12 ในปี 2020 แต่ในปี 2024 นี้ ในที่สุดขนาดหน้าจอก็อาจใหญ่ขึ้นอีกนิด คาดว่าหน้าจอ iPhone 16 Pro จะอยู่ที่ประมาณ 6.3 นิ้ว ในขณะที่ iPhone 16 Pro Max จะขยับเป็น 6.9 นิ้ว
หน้าจอใหญ่ขึ้นเพราะตัวเครื่อง iPhone 16 Pro และ 16 Pro Max จะสูงขึ้นประมาณ 3 มิลลิเมตร และกว้างขึ้นกว่าเดิมราว 1 มิลลิเมตร ไม่ได้หนาขึ้น และน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการขยายขนาด
น่าเสียดายที่การเปลี่ยนแปลงขนาดจอปีนี้จะจำกัดเฉพาะ iPhone 16 Pro และ Pro Max ส่วน iPhone 16 และ 16 Plus จะยังอยู่ที่ 6.1 นิ้วกับ 6.7 นิ้วตามเดิม
กล้องเทพขึ้นอีก
Apple มีการอัปเกรดกล้องเตรียมไว้ให้ iPhone 16 ทุกรุ่น สำหรับ iPhone 16 และ 16 Plus เลนส์จะจัดวางแบบแนวตั้ง ซึ่งเปลี่ยนจากรูปแบบวางเฉียงที่ Apple ใช้มาหลายปี การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะทำให้ iPhone 16 ถ่ายวิดีโอเชิงพื้นที่ (spatial video) ได้ ความสามารถที่ตอนนี้มีเฉพาะในรุ่น 15 Pro และ Pro Max
แต่คนที่ได้ของใหม่สุดๆ คงจะหนีไม่พ้น iPhone 16 Pro และ Pro Max โดย Apple จะอัปเกรดกล้องอัลตร้าไวด์ (Ultra Wide) เป็น 48 ล้านพิกเซล ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น เลนส์น่าจะทำงานคล้ายกล้องไวด์ 48 ล้านพิกเซล โดยใช้เทคนิค pixel binning ผสมข้อมูลจากสี่พิกเซลให้เป็น “ซูเปอร์พิกเซล” เพื่อคุณภาพภาพที่เหนือกว่า
เนื่องจากการถ่ายวิดีโอเชิงพื้นที่ (spatial video) ใช้ทั้งกล้องไวด์และอัลตร้าไวด์ ดังนั้นวิดีโอประเภทนี้ก็จะคมชัดขึ้นเมื่อถ่ายด้วยรุ่น Pro ใหม่
นอกจากนี้ Apple จะเพิ่มเลนส์เทเลโฟโต้ 5x ซูมใน iPhone 16 Pro ด้วย คาดว่าจะทำได้เพราะการที่ตัวเครื่องใหญ่ขึ้นนั่นเอง ตอนนี้ 5x ซูมแบบออปติคัลมีเฉพาะใน 15 Pro Max แต่ในปี 2024 ทั้งสองรุ่น Pro จะได้ใช้แล้ว
5G เร็วแรงสะใจ
iPhone 16 Pro และ Pro Max อาจได้รับชิปโมเด็ม Snapdragon X75 ตัวล่าสุดจาก Qualcomm ชิปโมเด็มมักไม่ใช่จุดขายหลักที่หลายคนตั้งตารอ โดยเฉพาะตั้งแต่ที่เราเปลี่ยนมาใช้ 5G แต่เจ้า X75 จะทำงานได้รวดเร็วกว่า แถมยังกินไฟน้อยกว่าด้วย
รองรับการรวมคลื่นความถี่ mmWave ถึง 10 คลื่น และรวมคลื่นความถี่ sub-6GHz 5 คลื่น การรวมคลื่นความถี่ช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้ข้อมูล คลื่นมากขึ้นก็หมายถึงเวลาหน่วงน้อยลง รับส่งข้อมูลได้เยอะขึ้น ชิปนี้มีโปรเซสเซอร์ AI รุ่นที่ 2 ติดตั้งมาด้วย Qualcomm อ้างว่ามันจะเพิ่มความเร็ว ความครอบคลุมของสัญญาณ ความเสถียรในการเชื่อมต่อ และความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง คุณน่าจะเจอปัญหาสัญญาณขาดๆ ในลานจอดรถ ลิฟต์ และรถไฟใต้ดินน้อยลง
X75 ผสานตัวรับส่งสัญญาณ sub-6GHz และ mmWave เข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงกินพื้นที่บนแผงวงจรน้อยลง 25% และใช้พลังงานน้อยกว่า เท่าที่มีข่าวตอนนี้ X75 อาจจำกัดไว้ให้เฉพาะรุ่น Pro ในปี 2024 ขณะที่รุ่นปกติอาจจะยังใช้ X70 ที่อยู่ใน iPhone 15 รุ่นปัจจุบัน
นอกจากจะอัปเกรด 5G แล้ว Apple อาจจะใส่ Wi-Fi 7 มาให้ iPhone 16 Pro ด้วย Wi-Fi 7 รองรับความเร็วสูงสุดถึง 40Gb/s น่าจะทำให้การเชื่อมต่อหน่วงน้อยลงและเสถียรมากขึ้น ส่วน iPhone 16 เราคาดว่าจะอัปเกรดเป็น Wi-Fi 6E เพื่อให้เชื่อมต่อสัญญาณ 6GHz ได้ รุ่น 15 Pro มี Wi-Fi 6E อยู่แล้ว แต่ iPhone 15 รุ่นธรรมดายังใช้ได้แค่ Wi-Fi 6
พลัง AI แห่งอนาคต
Apple เน้นที่การพัฒนา AI อย่างมากในปี 2024 ด้วยเป้าหมายที่ตามให้ทัน Microsoft, Google, OpenAI และบริษัทอื่นๆ ที่ลงทุนอย่างหนักใน AI แม้ AI จะหลักๆ เป็นเรื่องซอฟต์แวร์ แต่ก็ต้องอาศัยฮาร์ดแวร์ในการทำงานด้วยเช่นกัน
มีข่าวลือว่า iOS 18 จะมีการพัฒนาครั้งใหญ่โดยอาศัย AI และอาจจะนำ AI มาใช้กับระบบปฏิบัติการ บางฟีเจอร์ขั้นสูงสุดอาจจำกัดไว้สำหรับ iPhone 16 เพราะต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล
iPhone 16 ทุกรุ่นน่าจะได้รับชิป A18 (หรืออาจเป็น A18 Pro สำหรับรุ่น Pro) โดยชิป A18 จะใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ Apple เพื่อให้ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานดีกว่าเดิม ตอนนี้ iPhone 15 Pro ใช้ชิป A17 Pro แบบ 3 นาโนเมตร แต่ iPhone 15 ยังใช้ชิป A16 จากรุ่นก่อนหน้า
การอัปเกรดชิปเป็น 3 นาโนเมตรใน iPhone 16 ทุกตัวจะทำให้ Apple สามารถนำฟีเจอร์ AI ล่าสุดมาใช้กับไอโฟนที่เป็นเรือธงแต่ราคาจับต้องได้มากสุดด้วย คาดว่า A18 อาจมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นพร้อมจำนวนคอร์ที่เพิ่มขึ้น “อย่างมาก” ข่าวแว่วมาว่า Apple อยากจะให้การประมวลผล AI ทำได้บนเครื่องเลยเพื่อปกป้อง
