ยูทูป เดือดร้อน! ปิดกั้น Ad Block สุดโต่ง ผู้ใช้ไม่ทนย้ายหนี
ยูทูป เปิดศึก Ad Blocker เต็มรูปแบบ! ผู้ใช้ที่เคยดึงตัวบล็อกโฆษณาเข้ามาช่วย (Ad Blocker) จะพบกับปัญหาคาใจสองอย่าง นั่นคือ “อาการหน้าจอโหลดวน” หรือ “ข้อความแจ้งเตือน เนื้อหานี้ไม่สามารถใช้งานได้บนแอปพลิเคชันนี้” สัญญาณไฟแดงนี้สะท้อนอะไร?
ทำไมเรื่องนี้สำคัญ? มุ่งเน้นให้โฆษณาเข้าถึงผู้ใช้ฟรีมากที่สุด ซึ่งการปิดกั้น Ad Blocker อาจส่งผลให้ผู้ใช้หงุดหวังและย้ายไปอยู่แพลตฟอร์มอื่น ในทางกลับกัน ถ้ายอมจ่ายค่าสมาชิก YouTube Premium เพื่อหนีโฆษณา ยูทูปก็มีรายได้เพิ่ม แต่สุดท้ายแล้วนักโฆษณาอาจสูญเสียโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ยูทูป เดินหน้าสกัดกั้น Ad Blocker นอกจากการแจ้งเตือนเชิงรุกภายในแอปพลิเคชันแล้ว ยูทูปยังขยายแนวทางไปยังการหยุดการทำงานของ Ad Blocker จากแอปพลิเคชันอื่นๆ ด้วย
“เราต้องการเน้นย้ำว่าเงื่อนไขของเรานั้นไม่อนุญาตให้แอปพลิเคชันของบุคคลที่สามปิดกั้นโฆษณา เพราะจะส่งผลต่อรายได้ของผู้สร้างคอนเทนต์ โฆษณาบนยูทูปมีส่วนช่วยสนับสนุนเหล่า Creator และทำให้ผู้คนหลายพันล้านทั่วโลกเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งฟรี”
ประวัติศาสตร์การต่อสู้กับ Ad Blocker
- ปีที่แล้ว: ยูทูป เริ่มต้นด้วยการแจ้งเตือนแบบ Pop-up ข้อความ “Ad Blocker ไม่ได้รับอนุญาตบนยูทูป”
- ทดลองบล็อกการรับชมวิดีโอสำหรับผู้ใช้ Ad Blocker
- ปรับกลยุทธ์เป็น Pop-up แจ้งเตือนพร้อมบอกเวลาฟันธงว่าโฆษณาจะมาอีกครั้ง
ยูทูป ละเมิดสิทธิ์ความเป็นส่วนตัวหรือไม่? การปิดกั้น Ad Blocker อย่างเข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อตุลาคมปีที่แล้ว Alexander Hanff ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลของไอร์แลนด์ (DPC)
ทางเลือกเพื่อการรับชมวิดีโอแบบไร้โฆษณา ยูทูป เสนอทางเลือกเดียว นั่นคือ YouTube Premium สมาชิกแบบเสียค่าใช้จ่าย ราคา 13.99 ดอลลาร์สหรัฐ (สหรัฐอเมริกา) และ 12.99 ปอนด์สเตอร์ลิง (สหราชอาณาจักร)
การต่อสู้กับ Ad Blocker ของยูทูป ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ใช้ แพลตฟอร์ม และนักโฆษณา ผู้ใช้ต้องตัดสินใจว่าจะอดทนกับโฆษณา ยอมรับข้อจำกัดในการรับชม หรือควักเงินจ่ายค่าสมาชิก สุดท้ายแล้ว บทสรุปของศึกครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป